แผนการจัดการเรียนรู้



แผนการจัดการเรียนรู้ 
การเปรียบเทียบรูปแบบการสอน 
การสอนในรูปแบบเดิมหรือโดยทั่วไปจะแบ่งขั้นตอนการสอนออกเป็น 3 ขั้นตอน
          คือ   1. ขั้นนำ
                 2. ขั้นสอน
                 3. ขั้นสรุป
แต่ละรูปแบบการสอนแต่ละแบบ มีวิธีการสอนที่แตกต่างกันออกไป เราไม่สามารถกล่าวสรุปได้ว่าวิธีใดเป็นวิธีที่ดีที่สุดหากนำมาเปรียบเทียบกับการจัดการสอนแบบใหม่ DRU Model ที่เป็นรูปแบบที่พัฒนามากจากรูปแบบเดิม เพื่อนำมาใช้พัฒนาสติปัญญาและทักษะกระบวนการการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับรายวิชาและผู้เรียนมากขึ้น

                        ตัวอย่างเช่น รูปแบบการสอนแบบ  DRU Model

 ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ 
                               หน่วยการเรียนรู้ที่  9


กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์     ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2
ชื่อหน่วย  โลกและการเปลี่ยนแปลง                      เวลาเรียน  8  ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่  3  เรื่อง การกร่อนและการผุพัง  เวลาเรียน  1  ชั่วโมง
ผู้สอน  นางสาวปิยะวดี คุ้มนาเรียง                     โรงเรียน.......................
วัน.................ที่..........เดือน..........พ.ศ...........          เวลาที่สอน..................
หมายเหตุ
*********************************************************************

1.วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 
       มาตรฐาน  ว 6.1  เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวโลกและภายในโลก ความสัมพันธ์ของกระบวนการต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และสัณฐานของโลก มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 
      ตัวชี้วัด  ( 6.1 ม.2/9) ทดลองเลียนแบบและอธิบายกระบวนการผุพังอยู่กับที่ การกร่อน การพัดพา การทับถม การตกผลึกและผลของกระบวนการดังกล่าว
 จากมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
        ผู้เรียนต้องได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวโลกและภายในโลก ความสัมพันธ์ของกระบวนการต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และสัณฐานของโลก สามารถทดลองและอธิบายการกร่อน การผุพัง และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้
2.ออกแบบการสอน
       ผู้เรียนเลือกสื่อการสอน  ได้แก่ พาวเวอร์พ้อย วีดีโอ หนังสือเรียน ใบความรู้ ที่ผู้เรียนคิดว่าเหมาะกับเรื่องที่เรียนและทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ได้มากที่สุด
3.สื่อการสอนที่ดีที่สุด
       วีดีโอ ใบความรู้
4.วิธีการสอน
        ผู้เรียนเลือกวิธีการสอน ได้แก่ สอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สอนแบบการทดลอง สอนแบบบรรยาย สอนแบบสาธิต การสอนแบบ RBL
5.การสอนที่เหมาะสม
        ผู้สอนทำกิจกรรมการเรียนรู้ตามวิธีการสอนแบบ RBL โดยมีกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้
ขั้นที่ 1 การรู้จักตนเอง 
        1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 8 คน โดยให้นักเรียนทุกคนภายในกลุ่มของตนเองช่วยกันแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ
             - นอกจากการเกิดภูเขา แผ่นดินไหว และภูเขาไฟปะทุแล้ว ยังมีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้แผ่นเปลือกโลกเปลี่ยนแปลง (การผุพังอยู่กับที่ การกร่อน การพัดพา การทับถม)
        2. ให้นักเรียนนั่งสมาธิเป็นเวลา 2 นาที เพื่อทบทวนคำตอบที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็น
ขั้นที่ 2 การเชื่อมโยงประสบการเดิมและใหม่ 
        1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ว่าวันนี้จะเรียนเรื่อง การกร่อน พร้อมทั้งแจกใบความรู้ที่ 1 เรื่อง การกร่อนและการผุพัง
    จุดประสงค์การเรียนรู้
            ด้านความรู้ (K)
.                   อธิบายความหมายการกร่อนและการผุพังได้
                    อธิบายการกร่อนลักษณะต่าง ๆ ได้
                    ระบุสาเหตุที่ทำให้เปลือกโลกเกิดการกร่อนได้
             ด้านทักษะ (P)
                    ทดลองการกร่อนโดยปฏิกิริยาเคมีได้
             ด้านเจตคติ (A)
                    มีความสนใจใฝ่รู้อยากรู้อยากเห็น
        2. กระตุ้นความสนใจของผู้เรียนโดยถามคำถามดังนี้
             - การเปลี่ยนแปลงของหินมีสาเหตุมาจากสิ่งใดบ้าง  (แนวคำตอบ : การกร่อน การผุพัง)
             - วันนี้เราจะเรียนเรื่อง การกร่อนและการผุพัง
ขั้นที่ 3 การสร้างองค์ความรู้ 
        1. การตั้งประเด็น : หินเกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร
        2. ศึกษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูล : นักเรียนศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากประเด็นที่ตั้งไว้จากใบความรู้ที่ 1 เรื่อง การกร่อนและการผุพัง
        3. ลงมือปฏิบัติ : ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ  5 คน จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมารับ ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องการกร่อนและการผุพัง และอุปกรณ์การทดลอง ดังนี้
         - ชอล์ก   2 แท่ง
         - ขวดพลาสติก 2 ขวด
         - น้ำส้มสายชู  5 ลูกบาศก์เซนติเมตร
         - น้ำเปล่า   5 ลูกบาศก์เซนติเมตร 

       ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำการทดลองและสังเกต แล้วบันทึกลงในใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การกร่อน โดยมีขั้นตอนการทดลอง ดังนี้
               1. เติมน้ำส้มสายชูลงในขวดพลาสติก
               2. นำชอล์กที่เตรียมไว้หย่อนลงไปในขวดพลาสติก จากนั้นสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลง แล้วบันทึกผล
              3.  เติมน้ำเปล่าลงในขวดพลาสติก
              4. นำชอล์กที่เตรียมไว้หย่อนลงไปในขวดพลาสติก จากนั้นสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลง แล้วบันทึกผล
ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยนเรียนรู้และขยายผล 
        1.การแสดงความคิดเห็นร่วมกัน
                - นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน
        2. การประเมินผล
                - ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง การกร่อนและการผุพัง
                - แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
                - แบบประเมินการทำกิจกรรม 1 เรื่องการกร่อน
        3. การขยายความรู้เพิ่มเติม : ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการกร่อน พร้อมยกตัวอย่างสิ่งที่นักเรียนสามารถเข้าใจได้ง่ายและพบเจอบ่อยในชีวิต ประจำวัน
 ขั้นที่ 5 การนำไปใช้และการประยุกต์ 
        - ครูถามนักเรียนว่า   ถ้าสมมุติว่าเราปลูกต้นไม้ใกล้ ๆ กับก้อนหินขนาดใหญ่ ต่อมาต้นไม้มีการเจริญเติบโตมีรากต้นไม้ขนาดใหญ่ชอนไชไปตามดินและแทรกไปตาม ก้อนกิน นักเรียนคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปหินจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ : หินจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะรากต้นไม้ที่แทรกไปตามก้อนหินนั้น เมื่อเวลาผ่านจะทำให้ก้อนหินแตกออกจากกันและทำให้เกิดการผุพังของหิน)

6.แบบฝึกหัด/ใบงาน
 ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง การกร่อนและการผุพัง
 ผู้เรียนทำใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องการกร่อนและการผุพัง

7.ผู้เรียนประเมินตนเอง
        ผู้เรียนมีการวิเคราะห์ตนเองว่ามีความเข้าใจใน เรื่อง การกร่อนและการผุพังมากน้อยเพียงใดสามารถสรุปความรู้และทำงานตามที่สั่งได้ หรือไม่

8.ผู้สอนประเมินผู้เรียน
        ผู้สอนประเมินผู้เรียนโดยการประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน

9.การสืบค้นเพิ่มเติม
        ผู้เรียนสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมจากสิ่งที่ได้เรียนรู้มาเพื่อให้เกิดความ เข้าใจได้มากยิ่งขึ้น จากเพื่อนที่อยู่ภายในกลุ่ม จากเพื่อนจากกลุ่ม จากครูผู้สอน ห้องสมุด และจากแหล่งเทคโนโลยีสารสนเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น